วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

ALE*



               ในสัปดาห์นี้ เราจะมาคุยกันเรื่องเบียร์เอลชนิดต่างๆ ที่มีขายในเมืองไทยบ้าง  ดังที่ได้เคยเกลิ่นไปว่า “เอลคือเบียร์หมักปากถัง หมายความว่า การหมักเกิดขึ้นที่ด้านบนสุดของถังหมัก  นอกจากนี้ เบียร์เอลยังเกิดการหมักที่อุณหภูมิสูงกว่า จึงทำให้เบียร์ชนิดนี้มีสีเข้มกว่า และโดยทั่วไปจะมีรสชาติแรงกว่าเบียร์ลาเกอร์”

เอล  ประวัติโดยย่อของเบียร์ดี
               
เอลเป็นเครื่องดื่มที่มีอายุเก่าแก่กว่าอารยธรรมใดๆ ในปัจจุบัน  เท่าที่เราทราบ เครื่องดื่มที่มีความคล้ายคลึงกับเอลเริ่มหมักกันครั้งแรกเมื่อช่วงประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาลในยุคเมโสโปเตเมียโบราณ (ปัจจุบันคือประเทศอิรักและซีเรีย)  นอกจากนี้ยังมีการหมักเครื่องดื่มชนิดนี้ในยุคอียิปต์โบราณ และต่อมาก็ได้แพร่หลายไปทั่วยุโรปโดยกองทหารโรมัน เรื่อยมาจนถึงสหราชอาณาจักรเมื่อประมาณปีคริสตศตวรรษที่ 55
ในช่วงยุคกลาง เบียร์เอลเป็นเครื่องดื่มธรรมดาที่ดื่มได้แทบจะทุกคน รวมทั้งเด็กๆ ด้วย เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารและที่จริงแล้วปลอดภัยกว่าการดื่มน้ำ  เบียร์เอลส่วนมากที่ดื่มกันในยุโรปยุคกลางนั้น ความจริงพวกพระเป็นผู้หมักและปรับปรุงคุณภาพ  เมื่อมาถึงคริสต์ทศวรรษ 1400 จึงเริ่มมีใบฮ็อพในสหราชอาณาจักรโดยชาวดัทช์เป็นผู้นำเข้ามา และผู้ผลิตเบียร์ก็เริ่มนำใบฮ็อพมาหมักร่วมกับเบียร์เอล
ตลอดช่วงเวลาหลายปี ได้มีการพัฒนาเบียร์เอลมากมายหลายชนิด แต่ในส่วนใหญ่ เบียร์เอลก็นับว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงหลายร้อยปี  สัปดาห์นี้ เราจะกล่าวถึงเบียร์เอลประเภทหลัก 4 ประเภทแรก
บิทเทอร์ เอล
               
บิทเทอร์ เอล เป็นเบียร์แบบที่ได้รับความนิยม ผลิตในสหราชอาณาจักร และปกติจะมีสีต่างกันไปตั้งแต่ทองจนไปถึงเหลืองอำพัน มีรสชาติอ่อนๆ ของผลไม้ และมีรสขมของใบฮ็อพ  เบียร์บิทเทอร์จะมีความหลากหลายของบอดี้ตั้งแต่อ่อนไปจนเข้ม และก็ยังเป็นเบียร์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบสำหรับการดื่ม  เมื่อเบียร์บิทเทอร์ เอล มีรสแรงและเข้ม จึงได้รับการตีตราเป็น อีเอสบี (ESB, Extra Strong Bitter) ซึ่งเป็นเบียร์ยอดนิยมของผับในสหราชอาณาจักร  เบียร์บิทเทอร์ เอล ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ได้แก่ อีเอสบี ของ ฟุลเลอร์
เพล เอล
               
เพล เอล เป็นเบียร์เอลในสไตล์ที่ปกติจะมีสีค่อนข้างอ่อน  เพล เอล มีความสมดุลที่พอดีของรสชาติมอลต์และใบฮ็อพ ซึ่งทำให้เบียร์มีอาจมีรสชาติอ่อนๆ ของผลไม้ และอาจมีทั้งแบบค่อนข้างอ่อนไปจนถึงทั้งขมทั้งแรงแบบจัดจ้าน
เพล เอล จะคล้ายกับ บิทเทอร์ เอล แต่มักจะแรงกว่าเล็กน้อยและมีฮ็อพน้อยกว่า  ทำให้เบียร์นี้เป็นที่ชื่นชอบของคนที่รับรสได้ดีกว่า  ตัวอย่างที่ดีของ เพล เอล คือ โยน่า โยน่า เอล ของ โย-โฮ บริววิ่ง
บราวน์ เอล
               
บราวน์ เอล เป็นเบียร์ประเภทที่มีฮ็อพน้อย มีรสหวานเล็กน้อย มักจะมีสีน้ำตาลไปจนถึงเหลืองอำพันเข้ม  บราวน์ เอล หลายชนิดมักจะมีรสชาติคล้ายถั่วนิดๆ โดยเฉพาะถ้ามาจากทางตอนเหนือของสหราชอาณาจักร  บราวน์ เอล ของอเมริกัน มักจะแรงกว่า บราวน์ เอล ของอังกฤษ และบางทีจะส่งกลิ่นฉุนของผลไม้รสเปรี้ยวมากกว่าเล็กน้อย
บราวน์ เอล ชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ นิวคาสเซิล บราวน์ ซึ่งก็น่าเศร้าที่ไม่มีขายในเมืองไทย  ถ้าคุณจะหาเบียร์ที่คล้ายๆ กัน ก็อาจจะลอง เฮเซลนัท บราวน์ ของ โร้ก ดูก็ได้
อินเดีย เพล เอล
               
อินเดีย เพล เอล หรือ ไอพีเอ (IPA) เป็นเบียร์ประเภทย่อยของ เพล เอล แต่เบียร์สไตล์นี้ก็กลายมาเป็นเบียร์เอลที่นิยมกันมากที่สุดแบบหนึ่ง  ไอพีเอ ในตอนเริ่มแรกเป็นเบียร์ที่สามารถส่งออกจากสหราชอาณาจักรไปยังประเทศอินเดีย ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1800  เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีการนำระบบแช่เย็นมาใช้ เบียร์จึงเสียก่อนที่จะไปถึงประเทศอินเดีย  วิธีแก้ปัญหาก็คือ เติมใบฮ็อพลงไปเยอะๆ ซึ่งช่วยทำหน้าที่เป็นสารกันเสียธรรมชาติ  สิ่งที่ได้มาก็คือเบียร์ที่มีปริมาณฮ็อพสูง และมีรสชาติเหมือนกับ เพล เอล ซึ่งรสชาติดีและให้ความสดชื่นในสภาวะอากาศร้อน
ไอพีเอ กลายเป็นเบียร์ที่นิยมดื่มกันในหมู่ของทหาร กะลาสี นักผจญภัย และพวกเรือรบส่วนตัว และเมื่อพวกเขาเดินทางกลับบ้าน พวกเขาก็นำความต้องการกลับมาด้วย  เนื่องด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้เริ่มมีการเติมฮ็อพลงไปในเบียร์เอลของอังกฤษ 
             
               คะและข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ต้องขอขอบคุณ คูณอิเตอร์เน็ตอย่างสุดซึ้ง TT เพราะให้เซคิดเองคงคิดไม่ได้แน่ๆ55+ แล้วเดี๋ยวในตอนต่อไปนะคะเราจะมาเข้าโหมดเบียร์ตามแบบของเซกันละ จุฟๆ บายย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น