วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คราวนี้ถึงคราวของเบียร์ผลไม้

               หลังจากที่เมื่อหลายวันก่อนได้นำเสนอ LONDONPORTER ไป วันนี้เราลองมาดูอะไรที่เบาๆกันบ้างดีกว่า  นั้นก็คือเบียร์ผลไม้นั่นเอง  วันนี้เซขอเสนอ St LOUIS framboise
               เบียร์ชนิดนี้มีสีแดงเข้มแบบเชอรี่และมีความขุ่นเล็กน้อย เบียร์ประเภทนี้มีกลิ่นราสเบอรี่ที่รุนแรงมากเข้าขั้นว่าเป็นน้ำผลไม้ราสเบอร์เลยก็ว่า  ส่วนมากพวกเราอาจจะคุ้นเคยกับเบียร์ผลไม้ที่แค่มีกลิ่นเพียงอย่างเดียวแต่พอทานเข้าไปแล้วก็ยังขมเป็นรสชาติของเบียร์อยู่  แต่ตัวนี้รับลองว่าไม่ใช่เลยคะ  แตกต่างมากกกกกกกกกกก อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมเปรี้ยว ๆ ของมะนาวและยีสต์ เมื่อดื่มเข้าไปจะรับรู้ได้ถึงรสชาติหวานของเชอรี่และราสเบอรี่ในทันที รสหวานซ่อนเปรี้ยวของเบียร์ชนิดนี้ทำให้มันมีรสชาติที่น่าสนใจและมีลักษณะ ที่โดดเด่น


 
นี่คะขวดของ St LOUIS framboise


                                             แก้วลักษณะจะเป็นทรงแก้วไวน์


                    วันนี้เรายืมตัวแม่นางมาเป็นแบบ เนื่องจากเจ้าของblogหน้าป่วยมากกกก -..-


                                          ทานเบียร์กับนม (-..-') เข้ากันมากกก

               ก่อนกลับบ้านแอบถามพนักงานในร้านว่ามีกี่ตัวแล้วรสไหนอร่อยสุด แต่คำตอบที่ได้คือ แล้วแต่คนชอบ เซว่าก็อาจจะจริงนะ เพราะบางคนก็ไม่ชอบเปรี้ยวอาจจะชอบแค่ความหอมอย่างเดียวก็คงจะเลือกรสลูกพรีชเนอะ อ่อ!!!!เซลืมบอกไปว่าตัวนี้มีปริมาณแอลกอฮอร์เพียง 2.8% เองนะคะ  ถือว่าเบามากๆเลยทานเข้าไปแทบจะไม่รู้สึกมึนหรือเมาเลยแม้แต่นิดซึ้งเหมาะสาวๆที่ไม่ค่อยชอบแอลกอฮอร์แรงๆนะ
               เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่า St LOUIS จะมีตัวไหนกันบ้าง
St Louis Premium framboise ราสเบอร์รี่
St Louis Premium Kriek เชอร์รี่
• St Louis Premium Peche  ลูกพรีช

               วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า  ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีเบียร์ตัวไหนอยากแนะนำให้เซไปลองชิมก็คอมเม้นกันมาได้นะคะ  แล้วเซจะหาเวลาไปชิมแล้วเอามาบอกเพื่อนๆคนอื่นๆต่อไปคะ (^^)

 

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มารู้จักเบียร์ตระกูลอังกฤษบ้างกันดีกว่า

               วันนี้เซขอนำเสนออออออออออ..... LONDONPORTER ซึ้งเป็นเบียร์จากประเทศอังกฤษ ส่วนมากคนที่กินเบียร์ตัวนี้จะนิยมเรียกว่าLONDONPORTER แต่นั้นไม่ใช่ยี่ห้อนะคะ จริงๆแล้วต้องเรียกว่าFULLER'Sต่างหาก เบียร์FULLER'Sนั่นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ตัวนั่นก็คือ
-Fuller's London Pride
-Fuller's London Porter
-Fuller's ESB
-Fuller's India Pale Ale
               แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง LONDONPORTER แต่เซลองชิมกันก่อน เพราะให้กินทีเดียววันเดียวคงจะไม่ไหว 55+ ตัวนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบทานกาแฟและโอเลี้ยงมากๆ เพราะรสชาติจะค่อนข้างขมและมีกิ่นคล้ายๆกับเมล็ดกาแฟคั่วเล็กน้อย แต่ในโบชัวร์ทางร้านเค้าระบุว่าจะมีกลิ่นของช๊อคโกแลตอยู่ด้วย แต่เซลองชิมส่วนตัวคิดว่ากลิ่นที่ออกมามีแค่กลิ่นเดียวนั้นก็คือกลิ่นของกาแฟ แต่ก็ถือว่ารสชาติใช้ได้เลยทีเดียว เนื่องจากว่ารสชาติของเบียร์ส่วนใหญ่ที่มักจะติดปากเราคือจะมีความซ่าและความขม และเบียร์ตัวนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนทานกาแฟคือจะมีความนุ่นปนกับความหอม จะทำให้เราลืมรสชาติของเบียร์ที่เราเคยทานมาเลยแหละคะ


                                      ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นเหล้าวางอยู่ข้างหลัง555+


                                            ดูสีกันชัดๆ แต่อาจจะมืดไปหน่อย


                                                Fuller's London Porter


                             นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะเด็กๆ ยังอยู่ชุดนักศึกษาอยู่เลย TT


              แก้วจะมีคำว่าFULLER'Sเพราะไม่ว่าจะเป็นFULLER'Sตัวไหนก็จะใช้แก้วตัวเดียวกันคะ

               โดยรวมนะคะถือว่าเบียร์ตัวนี้โอเคเลยเพราะมันทั้งนุ่มและหอมเอามากๆ แอบรู้มานะคะว่าเบียร์ตัวนี้ได้หมักจากมอลท์ที่มีสีน้ำตาลช็อกโกแลต จึงได้น้ำเบียร์ที่มีลักษณะสีเข้ม และใสอย่างกับกาแฟ  แต่ถ้าหากใครที่ไม่ชอบทานขมตัวนี้ไม่ไหวแน่ๆ เดี๋ยวเซจะลองแนะนำแบบคร่าวๆนะคะว่าตัวไหนรสชาติเป็นยังไงจากการที่ได้ถามเจ้าของร้านมา
Fuller's London Pride  นุ่ม กลมกล่อม เบาๆไม่หนักมาก
Fuller's ESB  มีความซ่ากว่าตัวอื่น และจะมีรสชาติของมะนาวนิดๆเหมาะกับผู้หญิง
Fuller's India Pale Ale ตัวนี้จะมีความพิเศษหน่อยเพราะมีการใส่ยีสเยอะกว่าปกติ ซึ้งกลิ่นจะฉุนกว่าทุกตัว ส่วนลายละเอียดต้องรอติดตาม 55+ เพราะยังไม่ได้ลองกิน
               และนี่ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆนะคะและถ้าวันไหนได้ลองชิมก็จะถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆได้ดูกันใน
FULLER'S ตัวอื่นๆที่เหลืออยู่ แต่รับรองได้เลยว่าเบียร์แต่ละตัวนั้นต่างก็มีเสน่ห์ที่ต่างกันออกไป ยังไงซะเซจะพยายามหาข้อมูลมาให้เพื่อนได้ชมกันคะ ^^

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มาดู Paulaner กัน

       วันนี้เซจะขอแนะนำเบียร์ PAULANER ซึ้งก่อนหน้านี้เคยเกลิ่นไปแล้วว่าจะอัพรีวิวรสชาติของเบียร์ในแต่ละยี่ห้อ ให้เพื่อนได้ชมกัน ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเบียร์ในแต่ละยี่ห้อนั้นมันก็จะมีแยกย่อยมาอีกหลายตัว เช่น
-paulaner hefe weissbier naturtrüb
-paulaner hefe weissbier dunkel
-Hefe-Weissbier Alkoholfrei
-paulaner Original Munchner Dunke
-paulaner Original Munchner Hell
-paulaner Premium Pils
-paulaner Salvator
               แค่ได้เห็นชื่อก็มึนกันเลยทีเดียว (-..-) ตัวเซเองกินเข้าไปแค่ครึ้งแก้วก็ทำเอามึนแล้ว 55+ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าตัวที่จะแนะนำในวันนี้คือ paulaner hefe weissbier naturtrüb ที่เลือกตัวนี้มาแนะนำก็เพราะว่า ทางร้านบอกมาว่าตัวนี้ออกเยอะแล้วก็ออกบ่อยที่สุดบรรดา paulaner พูดถึงรสชาติเบียร์ตัวนี้จะมีรสชาติของผลไม้อยู่หน่อยๆ(แต่ก็บอกรสชาติไม่ ถูกว่าเป็นรสชาติของผลไม้อะไร)รสชาติเข้มข้นแต่ก็ไม่ถึงกับข้นมาก ปริมาณแอลกอฮอร์เพียแค่5.5%ถือว่าน้อยและธรรมดามากนะคะในหมู่ของพวกเบียร์นำ เข้า บางยี่ห้อมีถึง11.3เลย เอาเป็นว่าคะแนนเต็ม10เซให้PAULANERไป6แล้วกันคะ เพราะถือว่าไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
 

 
นี่คือโฉมของแก้วPAULANERแต่จะมีพวกDUNKEL(เบียรดำ)ที่จะเป็นแก้วมากร์มีหูจับ
 

 
เจ้าของBLOGลุยกินเองภายใน15นาที TT
 

 
ส่วนนี้ที่เพื่อนๆเห็นเป็นขีด นั้นก็คือเส้นบอกปริมาณฟองที่ควรจะมี หากต่ำกว่าเส้นถือว่ารินไม่ถูกต้อง เพราะการกินเบียร์ที่ดีนั้นควรจะต้องมีฟองในปริมาณที่พอเหมาะซึ้งเค้าจะ กำหนดมาให้เราดูที่ข้างแก้ว
 

 
รูปที่รองแก้วPAULANER
 

 
และนี่ก็เป็นอันหมดแก้ว -..- ขอบอกว่ามึนสุดๆ
 
               คราวหน้าต้องรอดูกันนะคะว่าเซจะพาไปรู้จักกับเบียร์ยี่ห้ออะไร หรืออาจจะเป็นยี่ห้อเดิมแต่คนละตัว เพราะวันนี้ได้ชิมมาแค่ตัวเดียวจริงๆ ต้องขอเวลาไปอ่านหนังสือก่อน เพราะกำลังอยู่ในช่วงสอบเลย ไว้จะมาอัพให้ดูกันใหม่นะคะ บายยยยยยยยยย..........

มารู้จักเบียร์นอกกันค่ะ

     สวัสดีคะเพื่อนๆ ก่อนที่เซจะพาเพื่อนไปรู้จักรสชาติของเบียร์ในแต่ละยี่ห้อและในแต่ละตัวนั้น วันนี้ขอเกลิ่นนำให้ได้รู้จักยี่ห้อกันก่อนดีกว่า ก่อนที่จะพาไปรีวิวรสชาติในแต่ละตัวกัน......

 
               
 
               ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ส่วนตัวแล้วเซเป็นคนที่ชอบกินเบียร์มากกกกกกกกก ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ในไทยหรือว่าเบียร์นอก แต่จากการที่ได้เข้ามาสัมผัสรสชาติและข้อมูลของเบียร์นั้น เซคิดว่ามันมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์และความรู้บางอย่างที่เราจะได้จากเจ้า เบียร์ เพราะส่วนมากแล้วนั่นตามร้านที่มีขายเบียร์นอกซึ่งจะมีอยู่ไม่มากนัก และด้วยความที่เป็นส่วนน้อยในการขายเบียร์  ทางร้านจึงต้องทำเมนูเพื่อที่จะแนะนำลูกค้าถึงประวัติความเป็นมาของเบียร์ แต่ละยี่ห้อ วันนี้เซมีรูปของเบียร์นอกต่างๆที่ได้รับความนิยมและยังไม่เป็นที่รู้จักมา ให้เพื่อนๆได้ดูก่อนการไปรีวิวของจริงให้ได้ชมกันคะ
 
 
 
 
นี่เลย Leffe

VEDETT จากเบียลเยียม
 
 
 

DUVEL ขอบอกว่าถูกใจแก้วตัวนี้มาก
 
 
 

ERDINGER

 
FULLER'S ตัวนี้ตระกูลอังกฤษ 

 
  

PAULANER

               ตัวสุดท้ายที่จะลงรูปให้ดูกันวันนี้เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วนั้นก็ก็คือ HOEGAARDEN นั้นเอง
 
 

HOEGAARDEN
               เจ้าhoegaardenนั้นได้รับความรับความนิยมในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน เรามักจะหาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปก็มี ดังนั้นในBlogของเซจะไม่ขอพูดถึงเจ้าตัวนี้แล้วกันนะคะเพราะข้อมูลคงมีเยอะ อยู่แล้ว ไว้วันพรุ่งนี้เดี๋ยวเซจะลงรูปที่ไปนั่งกินที่ร้านมาให้เพื่อนดูกันนะคะว่า เซจะไปลองตัวไหนบ้าง วันนี้ขอพอแค่นี้ แหะๆ .......